Ale Beer

Ale Beer (เบียร์เอล)

Ale Beer (เบียร์เอล) เบียร์ ที่หมักในช่วงอุณหภูมิ 18 - 24 องศาเซลเซียส เป็นการหมักแบบยีสต์ลอยเหนือผิวน้ำ (Top-Fermenting Yeast) ยีสต์ มันจะทำงานที่ด้านบนของเบียร์ หรือพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ มันจะลอยตัวอยู่บนผิวน้ำเมื่อหมักเสร็จ ความโดดเด่นของเบียร์เอลนั้น อยู่ที่รสชาติค่อนไปทางหวาน, มีสีหลากหลาย ตั้งแต่ทองสว่าง จนถึงสีน้ำตาลดำ โดยแตกต่างกันไปตามการเลือกเมล็ดข้าว มอลต์ ที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต อีกทั้งยังแบ่งแยกย่อยสไตล์ของ เอลเบียร์ ลงไปได้อีก

ประวัตศาสตร์ของเอล Ale Beer

เอล ในยุคแรก ๆ จะหมายถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอที่หมัก โดยไม่ใช้ฮ็อป แต่ใช้วัตถุดิบชนิดอื่นในการหมัก เพื่อใช้ให้เครื่องดื่มมีรสชาติขม คือ Gruit เป็นเครื่องเทศหรือสมุนไพรต่าง ๆ ที่นำมาผสมกัน ก่อนที่จะใส่ลงไปผสมกับ Wort (ของเหลวที่สกัดจากมอลต์ ที่ได้น้ำตาลออกมา เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเบียร์) แล้วนำไปหมัก หลังจากนั้นในยุคต่อมาก็ได้เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้ ฮ็อป ในการหมักเบียร์ 

เอลยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในยุคกลาง และ ยังมีความเป็นไปได้ที่เอลจะเป็นต้นกำเนิดของเบียร์ (ทั้งลาเกอร์ และ เอล) ประเภทต่าง ๆ ในปัจจุบัน เอลในยุตนั้นถถือได้ว่าเป็นสารอารหารเพิ่มพลังงานอึกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะทำจากข้าวบาเล่ย์ ที่มีคุณค่าสารอาหารสูง แอลกอฮอน้อย แม้แต่เด็กยังดื่มในยุคคนั้น เพราะสามารถทำได้ง่ายนั้นเอง 

เบียร์ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการหมัก บริโภคกันในครัวเรือน หรือในชุมชนนั้น ๆ โดยจะมีคนที่มีความเชี่ยวชาญรับหน้าที่ในการหมักเบียร์โดยเฉพาะ มีการทำการแลกเปลี่ยน หรือแบ่งขายบางส่วน ในยุคที่ยังไม่ใช้ฮ็อปในการทำเบียร์ เพราะแต่ละที่นั้นมีสมุนไพรแตกต่างกันออกไป จึงทำให้เบียร์มีรสชาติที่ต่างกัน ต่อมาได้มีนักบวชในโบสถ์คริสต์หลายแห่ง ก็มีการหมักเบียร์ของตัวเองขึ้น และ นักบวชเหล่านี้เอง คือผู้ที่ทำให้ความรู้เกี่ยวกับการหมักเบียร์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งการเริ่มใส่ฮ็อป และ ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ให้เบียร์มีรสชาติมากยิ่งขึ้น

ด้วยความนิยมของเอลนี้เอง ทำให้ประเทศแถบยุโรปตอนเหนือกลายเป็นแหล่งผลิตเอลสำคัญในยุคนั้น และ อังกฤษเป็นหนึ่งประเทศที่มีการผลิตเอลกันเยอะมาก ทำให้ในสมัยต่อ ๆ มา ที่อังกฤษมีอาณานิคมอยู่ทุกมุมโลก เอลจึงถูกส่งไปตามดินแดนเหล่านั้น และ ทำให้เอลกลายเป็นที่รู้จัก รวมถึงยังเกิดเอลประเภทใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่าง India Pale Ale หรือ IPA ที่เรานิยมกันในปัจจุบัน และยังมีเบียร์ประเภทอื่นเกิดขึ้นตามมา ตามด้านล่างนี้เลย

Wheat Beer (วีทเบียร์) / Weissbier (ไวซ์เบียร์) / Hefeweizen (เฮเฟอไวเซ็น)

Wheat Beer (วีทเบียร์) เป็นเบียร์ที่มีส่วนผสมของ ข้าวสาลี มากกว่า 30% หรือมากกว่าครึ่ง ด้วยโปรตีนที่สูงกว่าข้าวบาร์เลย์ ทำให้มี Body Beer ที่แน่น และ ชั้นฟองที่หนาละเอียด น้ำเบียร์มีความขุ่น มีกลิ่นของเปลือกส้ม และ เมล็ดผักชี ลื่นคอ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นการดื่มเบียร์

Hefeweizen (เฮเฟอไวเซ็น) เป็นเบียร์สไตล์ยอดนิยมของเบียร์เยอรมัน ดื่มง่าย ถูกปากคนไทย มักมีคนสับสนกับ Wheat Beer บ่อย ๆ ให้สัมผัสของกล้วย, การพลู และ Apple เหมาะกับการดื่มในโอกาสต่าง ๆ

Weat beer
Pale Ale

Pale Ale (เพลเอล)

Pale Ale (เพลเอล) เป็นเบียร์ที่ผ่านกระบวนการหมักร้อนด้วยมอลต์สีอ่อน โดยมีอัตราส่วนของมอลต์ และฮอปส์ปริมาณเท่า ๆ กัน ทำให้เบียร์ชนิดนี้มีรสชาติกลมกล่อม มีความสมดุลของรสขมและหวาน ทำให้ดื่มง่าย เหมาะสำหรับนักดื่ม craft beer หน้าใหม่ เบียร์ชนิดเหมาะกับการทานคู่กับอาหารปิ้งย่าง และอาหารรสเผ็ด โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 3.9- 7 ดีกรี

India Pale Ale (อินเดียเพลเอล) หรือ IPA (ไอพีเอ)

IPA (ไอพีเอ) เป็นเบียร์ที่นิยมในยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษ เป็นสูตรดัดแปลงจาก Pale Ale ที่ถูกปรับแต่งให้มีปริมาณฮอปส์ และ ยีสต์มากขึ้น เพื่อยืดอายุของเบียร์ ซึ่งทำให้เบียร์ชนิดนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น สีของเบียร์จะค่อนข้างเข้มออกไปทางสีส้มแดง มีกลิ่นฮอปส์ที่ค่อนข้างชัด รสขมแต่สดชื่น และมีกลิ่นของ Passion Fruit เบียร์ IPA ที่เพิ่ม Hops มากขึ้นไปอีก จะเรียกว่า Double IPA หรือ Imperia ipa เป็นที่นิยมในนักดื่มสายฮาร์ดคอร์ เช่น Deschutes Fresh Squeezed IPA และ Stone IPA เป็นต้น
Indian-Pale-Ale
Amber-beer

Amber Ale (อัมเบอร์เอล)

Amber Ale (อัมเบอร์เอล) เป็นเบียร์ที่มีสีน้ำตาลอัมพันตามชื่อ รสชาติออกไปทางหวาน เพราะมีสัดส่วนข้าวมอลต์ที่สูง ไม่มีกลิ่น Hop ที่รุนแรง แต่จะแทนที่ด้วยกลิ่นคาราเมล, ดอกไม้บาง ๆ และ Citrus อีกเล็กน้อย

Stout (สเตาท์)

Stout (สเตาท์) เบียร์สีเข้มจนเกือบดำ จากข้าวมอลต์บาร์เลยที่ผ่านการคั่ว มีสัดส่วนของ ฮ็อป เพียงเล็กน้อย ให้รสชาติที่หวาน ออกไปทางช็อคโกแลต, เมล็ดกาแฟ และ ข้าวโอ๊ต เหมาะกับการกินคู่กับของหวาน ๆ อย่าง Butter Cake หรือ Brownie
Stout Beer
Porter Beer

Porter (พอร์เตอร์)

Porter (พอร์เตอร์) เบียร์ที่มาพร้อมกับ Body ที่หนักแน่น และ เข้มข้น แต่ให้สัมัสที่สดชื่น ผลิตด้วยการผ่านความร้อนที่สูง พร้อมสัดส่วนของ Hop ที่สูง ทำให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูง และ เมื่อนำมาปรับสูตรให้มีแอลกอฮอล์มากขึ้น จึงถูกเรียกว่า Stout Porter หรือเรียกในภายหลังว่า Porter

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่ : คราฟต์เบียร์

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม : Lager Beer

อ้างอิง :
https://th.liq9.asia/blog/type-of-beer.html
https://www.mendetails.com/life/ประเภท-เอล-know-ale-guide-jan21/
https://thomasthailand.co/lifestyle/craft-beer/
https://th.liq9.asia/blog/type-of-beer.html